6 Gucci Bags ยอดนิยมตลอดกาล

Must-Have 6 Gucci Bags ยอดนิยมตลอดกาล Gucci แฟชั่นเฮ้าส์สัญชาติอิตาลี สัญลักษณ์แห่งความเย้ายวนใจ และความซับซ้อนในเรื่องราวและประวัติศาสตร์ของแบรนด์ จะมีแบรนด์ที่มีชื่อเสียงไม่กี่แบรนด์บนโลก ที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าผู้มีชื่อเสียงระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น Princess Diana, Vanessa Hudgens, Jackie Kennedy และ Pippa Middleton ตู้เก็บคอลเล็กชั่นแบรนด์เนมของคุณ จะสมบูรณ์แบบไปไม่ได้ หากปราศจากกระเป๋าจากแบรนด์ Gucci

SF Brandname อดไม่ได้ที่จะแบ่งปันความรักที่มีต่อกระเป๋า Gucci จึงขอแนะนำ 6 รุ่นกระเป๋ายอดนิยมตลอดกาลจากแบรนด์ Gucci ตัวแทนของคำว่า "สุดชิค คลาสสิก และเป็นเอกลักษณ์" เป็นส่วนหนึ่งของคำนิยาม เมื่อกล่าวถึงแบรนด์ Gucci ตั้งแต่โลโก้ซิกเนเจอร์ที่ตกแต่งบนกระเป๋า Tote  ไปจนถึงกระเป๋า Jackie Bag ความสง่างามเหนือกาลเวลา ที่มิใช่เป็นเพียงแค่กระเป๋า แต่มันยังเปรียบเสมือนมรดกทางวัฒนธรรมแฟชั่นอีกด้วย

Horsebit ถือกำเนิดครั้งแรกในช่วงยุค 50s ตามชื่อรุ่นของมัน ในช่วงปี 1950s ถือได้ว่าเป็นช่วงปีแห่งความรุ่งโรจน์ของแบรนด์ Gucci ในปี ค.ศ. 1951 Rodolfo Gucci ลูกชายของ Guccio Gucci ผู้ก่อกำเนิดแบรนด์ ได้ทำการเปิดร้าน Gucci แห่งแรกในมิลาน ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่แถบสีเขีว-แดง ได้กลายมาเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์แฟชั่นเฮ้าส์แห่งนี้ 2 ปีต่อมา ในปี ค.ศ. 1953 ได้เปิดร้าน Gucci ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นแห่งแรก ณ ถนน East 58th ในมหานครนิวยอร์ก

ในปีเดียวกัน ได้มีการเปิดตัวสัญลักษณ์อันโดดเด่นและเป็นอมตะอย่าง Horsebit ซึ่งได้แรงบันดาลใจในการออกแบบบนเรื่องราวจากโลกของกีฬาขี่ม้า โดยนำองค์ประกอบสองอย่างมารวมกัน ได้แก่ ห่วงคู่ที่มาพร้อมกับบาร์ นั้นแสดงถึงความสง่างามของกีฬาขี่ม้า โดยสัญลักษณ์ดังกล่าว มีความโดดเด่น และสามารถจดจำได้ในทันที ซึ่งได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของ DNA ของแบรนด์ Gucci ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ในปี ค.ศ. 1955 จึงได้มีการนำสัญลักษณ์ Horsebit ดังกล่าว มาใช้บนกระเป๋าถือเป็นครั้งแรก และถูกนำมาตีความใหม่อีกครั้ง โดยเปิดตัวในคอลเล็กชั่น Cruise 2020 เพื่อรำลึกถึงประวัติศาสตร์ของแบรนด์ โดยสัญลักษณ์ Horsebit มีลักษณะของห่วงคู่ที่มาพร้อมกับบาร์ นั้นเป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่โดดเด่นที่สุดในบรรดาสัญลักษณ์ของแบรนด์ที่หยิบยืมมาจากโลกของนักขี่ม้า ฮาร์ดแวร์โทนสีทองวินเทจชิ้นนี้จะถูกวางอยู่ที่ตำแหน่งบนแถบหนังด้านหน้ากระเป๋า ซึ่งแถบหนังนี้จะทำหน้าที่เหมือนกับตัวล็อคสำหรับเปิดปิดกระเป๋า

ราคาจำหน่าย Gucci Horsebit มือหนึ่งอยู่ที่ประมาณ 95,500 - 98,000 บาท
Gucci Horsebit 1955 ที่ SF Brandname จำหน่ายอยู่ที่ 75,900 บาท

กระเป๋าทรง Hobo จาก Gucci ซึ่งแต่เดิมมีชื่อว่า Fifties Constance ถูกวางจำหน่ายในช่วงปี 1950s และได้รับความนิยมอย่างสูง ต้องตาต้องใจสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐอเมริกาอย่าง Jackie Kennedy (แจ็กเกอลีน เคเนดี้) สะพายออกสื่ออยู่บ่อยครั้ง ในช่วงที่ John F. Kennedy ยังดำรงตำแหน่งเป็นประธานาธิบดี ช่วง ปี ค.ศ. 1961-1963 ส่งผลให้ Fifties Constance กลายเป็นไอเท่มที่มาแรงและได้รับความสนใจที่สุดในยุคสมัยนั้น

หลังจากนั้น ทาง Gucci จึงเล็งเห็นถึงความนิยมและกระแสของเหล่าบรรดาสายแฟในขณะนั้น ที่มีต่อ Fifties Constance ด้วยส่วนหนึ่งมาจาก Jackie Kennedy จึงได้ทำการเปลี่ยนชื่อรุ่นกระเป๋าเป็น "Jackie 1961" เพื่อเป็นเกียรติแก่สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง ซึ่งตัวเลข 1961 หมายถึงปีที่ Jackie Kennedy ได้ดำรงตำแหน่งสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง ในปี ค.ศ. 1961

ในช่วงหลายทศวรรษตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา Jackie 1961 ได้ถูกตีความใหม่ในรูปแบบดอกไม้ต่างๆ และลายพิมพ์ “GG” Supreme อันเป็นเอกลักษณ์ และถูกนำกลับมาสู่รันเวย์โดยทอม ฟอร์ด ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของ Gucci ในปี ค.ศ. 1999 และ Frida Giannini ในปี ค.ศ. 2009 อีกทั้ง ในปี ค.ศ. 2014 แคมเปญที่นำแสดงโดย Kate Moss ได้ชุบชีวิตกระเป๋าใบใหม่ ให้ยืนหยัดบนโลกของแฟชั่นอีกครั้ง

สำหรับคอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว (Fall/Winter) ปี 2020 Alessandro Michele ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์คนปัจจุบันได้รื้อฟื้นปัดฝุ่นกระเป๋า Jackie 1961 อีกครั้ง นำมาปรับโฉมใหม่ โดยถูกออกแบบเป็นหนังเรียบลื่นที่เก๋ไก๋ มีให้เลือกทั้งแบบขนาดกลาง ขนาดเล็ก และขนาดเล็ก Jackie ที่ถูกนำมารีบอร์นใหม่ จึงประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม

Gucci Jackie 1961 ที่ SF Brandname จำหน่ายอยู่ที่ 39,900 บาท

กระเป๋า Gucci Marmont หรือที่รู้จักกันในชื่อ GG Marmont เปิดตัวครั้งแรกในคอลเลกชั่น Fall/Winter Ready to Wear ปี 2016 ถึงแม้ว่ามันจะเป็นแค่ส่วนหนึ่งของคอลเล็กชั่น ซึ่งออกแบบโดย อาเลสซันโดร มิเชล (Alessandro Michele) แฟชั่นดีไซเนอร์ชาวอิตาลี  แต่ Double G Buckle และลวดลายรูปร่างแนวเส้นต่างๆ ที่เกิดจากการเย็บนวม Matelassé ก็ทำให้ GG Marmont ได้รับตำแหน่ง Gucci Hall of Fame ไปอย่างไม่ต้องสงสัย

Gucci Marmont สุดคลาสสิกตัดเย็บจากหนังกลับลายเชฟรอนเคลือบด้านและโดดเด่นด้วยโลโก้ 'GG' ใหม่ในฮาร์ดแวร์ทองเหลืองโบราณ โดยโลโก้ GG ตัวใหม่นี้ เปิดตัวอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกบนเข็มขัด Gucci เมื่อปี ค.ศ. 2015 หนึ่งปีก่อนที่ Alessandro Michele ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์คนใหม่จะเปิดตัวคอลเลกชั่นกระเป๋าถือ Gucci Marmont ในปี ค.ศ. 2016 ได้รับแรงบันดาลใจจากหัวเข็มขัดที่บริษัทแฟชั่นสร้างขึ้นในทศวรรษ 1970 โดยเลือกที่จะเปลี่ยนตำแหน่งตัว G เพื่อให้ทั้งสองหันไปทางเดียวกันและซ้อนทับกัน

สำหรับกระเป๋า GG Marmont มีจำหน่ายทั้ง กำมะหยี่ , หนังแกะ , ลวดลาย Chevron แบบ Zigzag , ผ้ายีนส์ , หนัง Python , หนังลูกวัวลายเกรน กระเป๋า Gucci Marmont ส่วนใหญ่ผลิตขึ้นจากหนังควิลท์ลายซิกแซก แต่ Gucci ยังใช้หนังเกรนที่หนาขึ้นเพื่อสไตล์ที่เรียบง่ายยิ่งขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น Gucci ตระหนักถึงความต้องการในการออกแบบที่ไม่เหมือนใครและออกแบบ Marmont ใหม่อย่างต่อเนื่องในหลากหลายสี ผ้า และประเภทหนัง

Gucci Marmont ที่ SF Brandname จำหน่ายอยู่ที่ 35,900 บาท

ก่อนที่จะเป็นหนึ่งในบุคคลที่มีความคิดสร้างสรรค์และกระตือรือร้นที่สุดในแวดวงแฟชั่นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา Alessandro Michele รับผิดชอบในการสร้างสรรค์เครื่องประดับสำหรับ Gucci เขาใช้เวลา 14 ปีกับแบรนด์ Florentine รวมถึง 8 ปีกับ Frida Giannini เมื่อ Michele ได้ก้าวเข้าสู่ตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของแบรนด์ในปี ค.ศ. 2015

เขาได้นำความน่าหลงใหลไปไกลกว่าโลกแฟชั่นจากคอลเล็กชันแรกของเขา ท่ามกลางการระเบิดของความคิดสร้างสรรค์ที่ทำให้มิลานกลับมาเป็นศูนย์กลางของโลกแฟชั่น นักวิจารณ์ นักข่าว และแฟชั่นนิสต้าต่างหลงไหล ตื่นตาตื่นใจไปกับกระเป๋ารุ่น Dionysus Alessandro Michele นำเสนอมุมมองใหม่ด้วยความเคารพอย่างสูงสุดในงานฝีมือและประวัติศาสตร์ของแบรนด์อิตาลี Michele นำตำนานของ Dionysus กลับมามีชีวิตอีกครั้งด้วยการใช้ผ้าใบโมโนแกรมอันเป็นเอกลักษณ์ของ Gucci มาตีความใหม่อีกครั้ง

Gucci Dionysus เปิดตัวครั้งแรกบนรันเวย์ฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว (Fall/Winter) ปี 2015 สร้างซิกเนเจอร์ใหม่ของ Gucci ด้วยหัวปิดกระเป๋ารูปหัวเสือคู่ เป็นบทกวีของเทพเจ้ากรีก Dionysus ซึ่งในตำนานเชื่อว่าได้แปลงโฉมตัวเอง กลายร่างเป็นเสือเพื่ออุ้มผีสาวข้ามแม่น้ำสายนั้นซึ่งกลายเป็นที่รู้จักในชื่อไทกริส

ลักษณะที่โดดเด่นกว่าของกระเป๋าถือคือการใช้ลายพิมพ์ GG Supreme ซึ่งเป็นการตีความแบบร่วมสมัยบนลวดลาย Gucci G โดยกระเป๋า Dionysus มีให้เลือกในหลากหลายวัสดุ เช่น หนังกลับ หนังงูเหลือม และหนังจระเข้ นับเป็นการเริ่มต้นใหม่สำหรับ Gucci เนื่องจาก Michele ยังคงเปลี่ยนทิศทางของแบรนด์ไปสู่การเน้นการออกแบบที่ร่วมสมัยและอ่อนเยาว์มากขึ้น

ราคาจำหน่าย Gucci Dionysus มือหนึ่งอยู่ที่ประมาณ 88,800 บาท
Gucci Dionysus ที่ SF Brandname จำหน่ายอยู่ที่ 45,900 บาท

Gucci Diana กระเป๋าถือรูปทรงสี่เหลี่ยม มีหูจับไม้ไผ่ จากแบรนด์ดังระดับโลกอย่าง Gucci ซึ่งทำการเปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1991 ได้รับความนิยมอย่างสูงจากสาว ๆ ทั่วทุกมุมโลก กระเป๋าหูหิ้วไม้ไผ่สุดโปรดของเจ้าหญิงแห่งเวลส์ เจ้าหญิงไดอาน่า เจ้าหญิงแห่งเวลส์ผู้ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นไอคอนแฟชั่นระดับตำนาน ในช่วงยุค 90s ผู้ไม่ว่าหยิบจับหรือสวมใส่ไอเท่มอะไร ก็ล้วนแล้วแต่ได้รับความสนใจ รวมถึงถูกจับตามองจากเหล่าประชาชนและนักข่าวเป็นอย่างมาก

Alessandro Michele (อเลสซานโดร มิเคเล่) ได้นำกระเป๋าคู่กายองค์หญิงรุ่นนี้ มาทำการปัดฝุ่นอีกครั้ง มาตีความในรูปแบบอันร่วมสมัย เพื่อให้สอดคล้องกับแฟชั่นใน ปี 2021 ตัวกระเป๋ายังคงดีไซน์ดั้งเดิมเอาไว้อย่างครบถ้วน รวมถึงหูจับไม้ไผ่อันเป็นเอกลักษณ์ มีการเพิ่มโลโก้ตัวปั๊ม GG สีทองด้านหน้า เพื่อบ่งบอกถึงความเป็นกุชชี่  โดดเด่นด้วยเข็มขัดหนังคาดหูกระเป๋าสีนีออนสะท้อนแสงหลากสี ซึ่งถูกจับคู่ในกระเป๋าแต่ละใบในเฉดสีที่ลงตัว ไม่ว่าจะเป็นสีเหลือง สีชมพู หรือสีส้มเรืองแสง อีกทั้งยังสามารถถอดออกได้

กระเป๋า กุชชี่ไดอาน่า มีวางจำหน่ายด้วยกันทั้งหมด 3 ขนาด คือ ขนาด Mini ในราคา £2,080 (ประมาณ 80,600 บาท) ขนาด Small ในราคา £2,430 (ประมาณ 94,200 บาท) และขนาด Medium ในราคา £2,960 (ประมาณ 115,000 บาท) มาพร้อมกับเฉดสีสุดคลาสสิก ไม่ว่าจะเป็น สีดำ , สีขาว , สีน้ำตาล , สีชมพู Powder Pink และสีฟ้า Pastel Blue

รวมทั้งเข็มขัดหนังคาดหู ซึ่งเป็นไอเท่มใหม่ ที่ทำให้กระเป๋ารุ่นนี้ มีความแตกต่างจากรุ่นออริจินัล อันเป็นตัวชูโรง เพิ่มความมีชีวิตชีวาซึ่งโอบล้อมหูจับไม้ไผ่อันแสนคลาสสิก เป็นการผสมผสานแฟชั่นดั้งเดิม กับแฟชั่นปัจจุบันเข้ากันไว้ได้อย่างลงตัว

พลิกโฉมกระเป๋ารุ่นไอคอนในอดีตของแบรนด์ มาดูคอลเล็กชั่นที่ประสบความสำเร็จอีกรุ่นของแฟชั่นเฮาส์อิตาลี ซึ่งเป็นที่รู้จักมากที่สุดจากการใช้องค์ประกอบคลาสสิก เช่น ผ้าใบ GG และแถบสีแดงและเขียว Ophidia Collection เป็นไลน์กระเป๋าที่เปิดตัวบนแคทวอล์ค Cruise 2018 ที่ Pitti Palace ในเมืองฟลอเรนซ์ โดดเด่นด้วยรายละเอียด GG Monogram อันเป็นเอกลักษณ์บนผืนผ้าใบ และแถบ GG Marmont สีทองแวววาว โดยได้ชื่อมาจากต้นกำเนิดของกรีก

สิ่งที่น่าสนใจคือฮาร์ดแวร์ของ Ophidia Collection มีการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง เมื่อเปิดตัวครั้งแรก คอลเล็กชั่นนี้โดดเด่นด้วยโลโก้อีนาเมลพร้อมตราสัญลักษณ์ G ซ้อนกัน 2 ตัว ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ แทนที่จะเป็น G แบบดั้งเดิมที่สะท้อนบนผืนผ้าใบของ Gucci มันเกือบจะเหมือนกับชิ้นส่วนดั้งเดิมยกเว้น GG รูปแบบใหม่ สองสามฤดูกาลต่อมา Ophidia Collection ได้รับการปรับปรุงด้วยโลโก้ Marmont GG สีทอง และรุ่นห่อหุ้มเคลือบอีนาเมลแทบไม่ได้ใช้

โลกของ Ophidia เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจจากอดีต และวิวัฒนาการของแฟชั่น ด้วยการเปิดตัวกระเป๋าหูหิ้วด้านบนขนาดกลางที่กำหนดโดยรูปทรงสี่เหลี่ยมที่ชวนให้นึกถึงการออกแบบสไตล์วินเทจ กระเป๋ารุ่นนี้ ถูกตัดเย็บขึ้นจากผ้าใบ GG Supreme โดยมีเอกลักษณ์ประจำแบรนด์ที่โดดเด่นที่สุด คือ แถบสีเขียวและสีแดง ซึ่งเป็นการแสดงความเคารพต่อโลกแห่งการขี่ม้า และ Double G จากเอกสารสำคัญในยุค 70 ซึ่งนำมาปรับปรุงใหม่โดยใช้รูปแบบที่ซับซ้อน กระเป๋ามาพร้อมสายสะพายไหล่แบบถอดได้ซึ่งช่วยให้สะพายได้หลายแบบ

Gucci Ophidia GG Tote Bag  ที่ SF Brandname จำหน่ายอยู่ที่ 57,900 บาท

SF Brandname พร้อมให้บริการคุณด้วยกระเป๋า Gucci หลายรุ่นหลายขนาด รุ่นหายากต่าง ๆ รวมถึงกระเป๋าและผลิตภัณฑ์แบรนด์เนมหลายรายการ ซึ่งทาง SF Brandname ขอรับรองว่าสินค้าทุกชิ้นจากทางร้านเป็นของแท้ 100% มั่นใจด้วย Warranty Card เพื่อรับประกันความเป็นของแท้ พร้อมด้วยบริการครบวงจรไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการซื้อขาย แลกเปลี่ยนจำนำ หรือสปากระเป๋า สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมตามช่องทางดังต่อไปนี้

• Facebook : sfbrandname
• IG : sfbrandname
• Line : @sfbrandnamebkk
• Tel : 02-821-6444